กิจกรรมที่เหมาะกับเด็ก 4-12 ปี เล่นสนุกมีประโยชน์ ช่วยส่งเสริมพัฒนาการ โดยเฉพาะพัฒนาการด้านสติปัญญา ซึ่งเด็กๆ วัยนี้ต้องบอกว่ากำลังอยู่ในช่วงวัยเรียน และก็ชอบทำกิจกรรมเสริมกันมากๆ ด้วย ดังนั้นเพื่อช่วยให้คุณแม่มีไอเดียในการหากิจกรรมดีๆ ให้ลูก มาลองดูกิจกรรมที่นำมาฝากกัน
คุณพ่อคุณแม่อาจสงสัยกันว่าทำไมจะต้องเป็น กิจกรรมที่เหมาะกับเด็กวัย 4-12 ปี ก็เพราะว่าเด็กๆ ในช่วงวัยระหว่างนี้ กำลังฉลาดเรียนรู้ในประสบการณ์ต่างๆ ที่แปลกใหม่ สื่อสารเก่ง มีความฉลาดด้านอารมณ์ และสมองก็เรียนรู้เก่ง จำแม่นด้วย ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้มีประโยชน์ ดีต่อพัฒนาการของเด็กๆ นั่นก็คือ…
1. ศิลปะสร้างสรรค์
งานศิลปะวาด ลากเส้น ตัดแปะ พับ ระบายสี ถึงจะดูเลอะๆ แต่ก็ช่วยให้เด็กๆ มีจินตนาการอย่างไม่รู้จบ ที่สำคัญช่วยสร้างสมาธิให้มีใจจดจ่ออยู่กับชิ้นงานที่กำลังทำอยู่ ซึ่งยังจะส่งผลดีไปถึงการเรียนในห้องเรียนที่ทำให้เด็กมีสมาธิในการเรียน เขียน อ่านหนังสือมากขึ้นอีกด้วย
2. ธรรมชาติบำบัด
บำบัดในที่นี้ไม่ได้หมายถึงเด็กๆ ป่วย แต่เป็นการเล่นกับธรรมชาติรอบตัว ไม่ว่าจะเป็นปั้นดิน ขุดทราย เล่นน้ำเปียกปอน วิ่งเหงื่อไหล ซึ่งการเล่นในธรรมชาติที่มีทั้งแสงแดดอ่อนๆ สายลมพัดเย็นๆ เสียงนก เสียงแมลงร้องจะช่วยทำให้เด็กมีสุขภาพอารมณ์ที่แจ่มใส สดชื่น เด็กที่ได้เล่น ได้อยู่กับธรรมชาติบ่อยๆ จะช่วยลดภาวะความเครียด ความกดดันต่างๆ ช่วยให้ผลการเรียนหนังสือได้ดีขึ้น
3. บทบาทสมมติพาเพลิน
เด็กในช่วงวัยระหว่าง 4-12 ปี ควรฝึกให้เขาได้มีสังคม มีเพื่อนวัยเดียวกัน ได้เล่นอย่างสนุกสนานสมวัย ซึ่งการเล่นบทบาทสมมติด้วยการเล่านิทานแล้วได้แสดงเป็นนางฟ้า หุ่นยนต์ แม่มด คนแก่ กระต่าย นก แมว ฯลฯ นอกจากจะได้ความสนุกสนานแล้ว เด็กๆ ยังได้เรียนรู้ด้วยว่าสิ่งที่เขากำลังสวมบทบาทเป็นอยู่นั้น มีอารมณ์ ความรู้สึกอย่างไร แสดงยังไงให้รู้ว่าเป็นคนแก่ ต้องทำเสียงแบบไหนถึงเป็นนก เป็นแมว เป็นต้น การเล่นบทบาทสมมติเป็นการเล่นกิจกรรมที่ต้องทำเป็นกลุ่มหลายๆ คน ซึ่งตรงนี้จะส่งเสริมให้เด็กรู้จักทักษะการเข้าสังคม การอยู่ร่วมกัน การแบ่งปันกัน
4. ดนตรีสร้างสุข
เด็กๆ จะเติบโตและมีความคิดที่ซับซ้อนขึ้นตามวัย ดังนั้นกิจกรรมควรต้องปรับเปลี่ยนไปตามพัฒนาการของเด็กๆ ด้วย อย่างดนตรีก็เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่เหมาะกับเด็กวัย 4-12 ปี โดยเฉพาะเด็กที่อายุ 6-7 ขวบขึ้นไปที่เขาจะสามารถเรียนรู้ตัวโน้ตสูง ต่ำ การจับจังหวะ การแยกแยะที่ชัดเจนมากขึ้นว่านี่คือเสียงกลอง เสียงเบส เสียงกีตาร์ คีย์เปียโน ฯลฯ คุณพ่อคุณแม่ลองดูว่าลูกชอบ หรือสนุกกับเสียงดนตรีประเภทไหน ถ้าชอบดนตรีไทยก็ควรหาเครื่องดนตรีที่ลูกชอบให้เขาได้เล่นได้เรียนรู้ แต่ถ้าชอบดนตรีสากล ก็อาจจะเป็นกลอง เปียโน ไวโอลิน เป็นต้น
นี่เป็นเพียงตัวอย่างของกิจกรรมที่มาในรูปแบบของการเล่น ซึ่งการเล่นจะส่งเสริมให้สมองของเด็กๆ เกิดการเรียนรู้ คิดเป็นระบบ ส่งเสริมให้พัฒนาการทักษะด้านต่างๆ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ขอบคุณข้อมูลจาก : amarinbabyandkids
ขอบคุณภาพจาก : Internet
|